เพราะปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมส่งผลกระทบเริ่มรุนแรง หลายธุรกิจและอุตสาหกรรมทั่วโลกจึงมีนโยบายดำเนินธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจที่รับ ย้ายบ้าน ก็เช่นเดียวกัน ที่มีแนวคิดของ Green Moving ที่มีความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ย้ายบ้าน แบบ Green Moving คืออะไร?

คำว่า “Green” นั้นเป็นคำที่แทนการกระทำใดๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฉะนั้น Green Moving จึงหมายถึงการ ย้ายบ้าน ที่มุ่งเน้นที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีลักษณะการกระทำที่มุ่งเน้นให้การขนย้ายสิ่งของต่างๆ เช่น การลดปริมาณขยะ, การใช้พลังงานที่มีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หรือการเลือกวัสดุในการขนย้ายที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายหรือนำไปรีไซเคิลได้ เป็นต้น

ซึ่งการจะขนย้ายสิ่งของให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนั้น สามารถทำได้ง่ายโดยเริ่มจากฝั่งของลูกค้าผู้ที่ต้องการ ย้ายบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะสะสมสิ่งของไว้ในบ้านจำนวนมาก และเรามั่นใจว่าพวกเขาไม่ค่อยได้จำแนกสิ่งของที่ใช้ได้และไม่ได้ใช้แล้วออกจากบ้านมานานแสนนาน ซึ่งนั่นอาจทำให้เกิดขยะปริมาณมากมายจากการขนย้ายครั้งนี้ อีกส่วนหนึ่งที่สามารถทำได้ก็คือ นโยบายความเป็น Green Moving ของบริษัทที่ รับย้ายบ้าน เช่น การเลือกใช้กล่องกระดาษสำหรับบรรจุสิ่งของที่สามารถรีไซเคิลได้ หรือการเลือกใช้รถขนย้ายที่เป็นพลังงานสะอาดเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ฯลฯ นอกจากนั้น ก็ยังมีกระบวนการและขั้นตอนอีกมากมาย ที่ Good Move จะขอนำเสนออย่างละเอียดดังต่อไปนี้

ย้ายบ้าน ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสามารถทำได้อย่างไรบ้าง? 

1. สำรวจสิ่งของในบ้านก่อนเริ่มบรรจุลงกล่อง : อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วว่า ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเก็บสะสมสิ่งของมากมายไว้ในบ้าน ทั้งที่ใช้ได้อยู่และใช้ไม่ได้แล้ว หรือของที่ยังจำเป็นต้องใช้ และไม่ได้จำเป็นต้องใช้แล้วด้วย เป็นต้น ฉะนั้นก่อนการที่จะแพ็คสิ่งของทั้งหมดในการ ย้ายบ้าน ลองสำรวจสิ่งของต่างๆ ดูก่อนว่ามีอะไรที่ควรทิ้ง อะไรที่ควรเก็บไว้ใช้ที่บ้านใหม่ สิ่งนี้จะช่วยลดการใช้ทรัพยากรที่จะต้องนำมาใช้แพ็ค บรรจุสิ่งของ เช่น ถุงขยะ, กล่องหรือเทปกาวพลาสติกต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดขยะย่อยสลายยากหรือไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
   
   การแยกสิ่งของตามขั้นตอนเหล่านี้ อาจดูน่าเบื่อและใช้เวลานาน แต่ข้อดีที่นอกจากจะช่วยลดการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในการแพ็คบรรจุที่มากเกินความจำเป็นได้แล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในการ ย้ายบ้าน ได้อีกด้วย เพราะส่วนใหญ่แล้วการจ้างรถสำหรับการขนย้ายจะคิดเป็นจำนวนรอบ หากสิ่งของของคุณมีจำนวนมากก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายของจำนวนรอบในการขนย้ายมากขึ้นด้วยนั่นเอง นอกจากนั้น การสำรวจและแยกสิ่งของต่างๆ ในบ้านแล้ว คุณยังสามารถการขายต่อ จ่ายแจกให้แก่ผู้ที่ต้องการหรือขาดแคลน เพื่อลดการเกิดขยะได้อีกทางหนึ่ง
   
   
2. เลือกวัสดุที่ใช้บรรจุสิ่งของที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : เช่น การเลือกใช้กล่องที่ทำจากวัสดุที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลหรือใช้ใหม่ได้ หรือการใช้วัสดุที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ อาทิ
   
   
   
   
   • การใช้กล่องกระดาษแข็ง : แน่นอนว่าคุณไม่สามารถ ย้ายบ้าน ได้ด้วยกล่องกระดาษแข็งเพียงอย่างเดียว ซึ่งสิ่งของที่เปราะบางจำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากการกระแทกระหว่างการเคลื่อนย้าย แต่การเลือกใช้กล่องกระดาษเข้ามาใช้ด้วย เพื่อลดการใช้กล่องพลาสติกก็มีส่วนช่วยลดภาระของสิ่งแวดล้อมได้แล้วไม่มากก็น้อย
     
     
   • การใช้เทปกาวกระดาษ : แม้ว่าอาจจะหาซื้อได้ยากหน่อย แต่การเลือกซื้อเลือกใช้เทปปิดผนึกกล่องเป็นกระดาษ Eco หรือผลิตจากกระดาษรีไซเคิล 100% ที่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้อย่างสมบูรณ์ มาใช้ในการ ย้ายบ้าน ของคุณก็จะสามารถช่วยสิ่งแวดล้อมได้มากทีเดียว

   นอกจากการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับการแพ็คบรรจุสิ่งของดังกล่าวแล้ว การเลือกใช้สิ่งของต่างๆ ในบ้านที่มีอยู่มาใช้ในการแพ็คเก็บของก็สามารถช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน อาทิ ผ้าปูที่นอน, ผ้าเช็ดตัว, ถุงเท้าและชุดชั้นใน, หมวก หรือผ้าพันคอ คุณก็สามารถนำมาการบรรจุสิ่งของที่ต้องการขนย้ายได้เช่นกัน

   ด้วยไอเดียของการเป็นบริษัท รับย้ายบ้าน อย่าง Green Moving หลายบริษัทในต่างประเทศ เช่น Crate Hire UK, Pluscrates และ Teacrate ต่างก็นำเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนแก่สิ่งแวดล้อมในการแพ็คบรรจุสิ่งของเพื่อการขนย้าย เช่น บริการเช่าลังสำหรับขนย้าย พอลูกค้าทำการขนของได้สำเร็จก็สามารถส่งคืนลังกลับมายังบริษัทได้ ด้วยที่ไม่ต้องลงทุนซื้อกล่องกระดาษหรือเทปกาวแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่เมื่อใช้แล้วก็ต้องทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย

3. การใช้ยานพาหนะที่ใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : ข้อนี้ถือเป็นหน้าที่ของบริษัท รับย้ายบ้าน ที่จะต้องมีนโยบายและปรับเปลี่ยนรถยนต์หรือยานพาหนะสำหรับขนส่งให้เป็นแบบประเภทที่ใช้ไฟฟ้าทดแทนการใช้รถยนต์จากเครื่องยนต์สันดาปที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุของก๊าซเรือนกระจกได้ นอกจากนั้น การวางแผนเส้นทางการขนย้ายก่อนออกปฏิบัติงานทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่รถติดหรือเส้นทางที่อาจทำให้เกิดปัญหาล่าช้าได้ ก็จะช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำมาสู่การช่วยลดต้นทุนของธุรกิจได้อีกด้วย
   
   
4. การบริจาค : สืบเนื่องจากข้อที่ 1 การสำรวจและแยกสิ่งของต่างๆ ก่อนการ ย้ายบ้าน ออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ของที่ใช้ได้อยู่, ของใช้ไม่ได้แล้ว, ของที่ยังจำเป็นต้องใช้ และของที่ไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว ในหมวดของสิ่งของที่ยังใช้ได้อยู่ แต่คุณไม่จำเป็นต้องใช้หรือไม่อยากใช้แล้ว สิ่งของเหล่านั้นคุณสามารถนำมาส่งต่อให้แก่คนที่ต้องการของสิ่งนั้นต่อได้ โดยการนำมาบริจาคให้กับองค์กรการกุศลต่างๆ เช่น โรงเรียน ห้องสมุด และสถานสงเคราะห์ต่างๆ เพราะนอกจากจะเป็นวิธีที่ดีในการลดปริมาณขยะที่ใส่ลงในถังขยะทั่วไปแล้ว ยังเป็นการทำบุญด้วยอีกทางหนึ่ง
   
   หากคุณคิดว่าสิ่งของที่คุณไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว แต่ยังอยู่ในสภาพที่ดีและมีมูลค่า อีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีในการลดปริมาณขยะจากการ ย้ายบ้าน ก็คือ การลงประกาศขายสิ่งของเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้า, เสื้อผ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ จะทางออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ตามสะดวกของแต่ละคน และเงินที่ได้จากการขายสิ่งของเหล่านั้น คุณก็สามารถเอามาใช้จ่ายสำหรับรถขนย้ายหรือซื้อของใหม่ๆ เพื่อเป็นของขวัญรับบ้านใหม่ได้อีกด้วย
   
   
5. ใช้บริการบริษัท รับย้ายบ้าน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้การขนย้ายของคุณเป็น Green Moving อย่างมีประสิทธิภาพในทุกๆ ขั้นตอน การเลือกจ้างบริษัทที่มีนโยบายชัดเจนเกี่ยวกับการเป็นบริษัทขนย้ายสีเขียว ที่มีแนวปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากบริษัทเหล่านี้จะใช้ยานพาหนะสำหรับการขน ย้ายบ้าน ที่เป็นพลังงานสะอาดแล้ว บริษัทเหล่านั้นก็ยังสามารถช่วยจัดเตรียมกล่องขนย้ายที่นำกลับมาใช้ใหม่ให้คุณได้อีกด้วย
   
   หลายบริษัทขนส่งหรือ รับย้ายบ้าน ในหลายประเทศทั่วโลก อาจมีบริการอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น บริการรับสิ่งของที่สามารถรีไซเคิลได้ ไปส่งต่อให้ยังแหล่งที่รับรีไซเคิลหรือนำกลับมารีไซเคิลได้, การบริการให้ลูกค้าเช่าหรือซื้อบรรจุภัณฑ์หรืออุปกรณ์ที่สามารถรีไซเคิลได้, การรับรีไซเคิลอุปกรณ์ขนย้ายของคุณ รวมถึงการรับบริจาคของที่ไม่ได้ใช้แล้วแทนที่จะทิ้งทำลาย เป็นต้น

Good move Professional Mover เป็นบริษัทขนย้ายบ้าน ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง?

ที่ Good move Professional Mover เองก็มีนโยบายให้บริการ รับย้ายบ้าน ด้วยอุปกรณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้กล่องกระดาษที่ผลิตจากเทคนิคพิเศษไม่ให้เสื่อมสภาพเร็ว สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ถึง 3 ครั้ง จึงช่วยลดอัตราการผลิตกล่องและลดการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองได้ปีละประมาณ 20 ตัน, การใช้ผ้าห่อกันกระแทกและลดการใช้เทปกาวหรือพลาสติกซีลสำหรับห่อหุ้มจำนวนมาก ซึ่งแต่เดิมนั้นเราใช้พลาสติกซีล, บับเบิ้ล หรือกระดาษลูกฟูกที่ใช้เพียงครั้งเดียวก็ทิ้งไป เราจึงหาวัสดุทดแทนอุปกรณ์ที่ใช้แล้วทิ้งไปเหล่านั้น โดยการใช้ กล่องพลาสติกแข็ง, กล่อง reused, กระดาษ reused และ ผ้า moving ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อลดการใช้พลาสติกและกระดาษได้หลาย 10 ตัน/ปี และยังสามารถช่วยประหยัดต้นทุนให้กับบริษัท รวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าได้อีกด้วย

นอกจากนั้น เรายังมีนโยบายให้ทีมงานของ Good move ลดการใช้เทปกาว โดยทีมงานที่ไปทำการบริการ ย้ายบ้าน ให้กับลูกค้าจะมีเทคนิคการใช้เทปกาวให้น้อยที่สุดเพื่อให้คุ้มค่ามากที่สุด และที่สำคัญเรามีกระบวนการรีไซเคิลกระดาษลูกฟูก โดยเรานำเศษกระดาษลูกฟูกที่ฉีกขาดหรือใช้แล้ว นำไปรีไซเคิลเป็นถุงกระดาษเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

โดยสรุปการ ย้ายบ้าน ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้นไม่เพียงแค่ช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดกับสิ่งแวดล้อมได้ แต่ยังสามารถช่วยให้คุณสร้างรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนให้กับผู้คนทั้งโลก เพียงแต่การปรับเปลี่ยนขั้นตอนในการทำกิจกรรมหรือการทำธุรกิจบางอย่างให้มีส่วนร่วมในการสร้างโลกและมีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดขยะ ,การลดหรือการใช้พลังงานต่างๆ อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถมีส่วนช่วยให้สิ่งแวดล้อมบนโลกใบนี้ดีขึ้นแล้ว

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.goodmove-th.com
โทร : 0-2114-7574
แฟกซ์ : 0-2100-4773
E-mail : info@goodmovethailand.com
Line ID : @goodmove ( มี @ ข้างหน้า )
Facebook Inbox : https://m.me/1653262334889316