7 เคล็ดลับการจัดบ้านและขนย้ายของในบ้าน เพื่อช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟ

แนะนำขนย้ายของ ในบ้านที่ไม่จำเป็นแต่ก็ไม่อยากทิ้งเก็บไว้ในห้องเก็บของให้เช่า

7 เคล็ดลับการจัดบ้านและขนย้ายของในบ้าน

ในปัจจุบันนี้นอกจากปัญหาโลกร้อนที่ทำให้บ้านเราร้อนมากผิดปกติกว่าทุกๆ ปีแล้ว ก็ยังมีปัญหาค่าไฟฟ้าที่แพงแสนแพงมากขึ้นจนหลายคนเห็นบิลค่าไฟฟ้าแล้วต้องร้องเสียงหลง!...​ การมองหาวิธีที่จะช่วยให้คุณประหยัดไฟได้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

บทความนี้ Good move ขอแชร์วิธีการจัดบ้านอย่างไรให้สามารถประหยัดค่าไฟได้ ด้วยเคล็ดลับ ขนย้ายของ ในบ้านเพียงเล็กน้อยและปรับอะไรอีกนิดหน่อยก็ช่วยให้ค่าไฟในบ้านของคุณลดลงได้มากกว่า 20% เลยทีเดียว

  1. จัดวางตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านไม่ให้ขวางทางลม : หัวใจของการตกแต่งบ้านอย่างหนึ่งคือการคำนึงถึงการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า แต่บางครั้งการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่หรือตู้โชว์ต่างๆ ในบ้าน อาจจะไปอยู่ในตำแหน่งที่ขวางทางลมที่จะพัดเข้ามาในบ้าน เพื่อช่วยทำให้อากาศถ่ายเทและระบายความร้อนได้ดี ซึ่งจะช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศในบ้านหรือห้องนอนของคุณไม่ทำงานหนักจนเกินไปเวลาเปิดใช้งาน ฉะนั้นตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับตู้หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ก็คือติดผนังทึบภายในบ้านของคุณนั่นเอง และหากพื้นที่ในบ้านไม่เพียงพอการนำไปเก็บไว้ใน ห้องเก็บของให้เช่า ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี

    ขนย้ายของ


    นอกจากนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่ๆ ที่มักจะปล่อยความร้อนได้มากภายในบ้าน เช่น เครื่องซักผ้า, เครื่องอบผ้า, เตาอบต่างๆ และตู้เย็น ล้วนปล่อยความร้อนออกมาจากการเปิดใช้งานทั้งนั้น โดยเฉพาะตู้เย็นที่เราต้องเสียบปลั๊กใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง และหากปล่อยให้ภายในบ้านของคุณร้อน การทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้จึงทำงานหนัก ฉะนั้นตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ คุณจึง ขนย้ายของ และเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ไปไว้ในสถานที่โล่งระบายอากาศได้ง่าย หากไม่สามารถสร้างห้องแยกออกให้เป็นสัดส่วนได้ ก็ควรไม่ควรตั้งอยู่ใกล้แหล่งความร้อน เพื่อไม่ให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักและผลลัพธ์ที่ได้กลับมาก็คือค่าไฟฟ้าที่ลดลงได้ นั่นเอง

  2. ใช้ผ้าม่านทึบแสงเพื่อช่วยกันแสงแดดจากภายนอก : อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เครื่องปรับอากาศภายในบ้านของคุณไม่ทำงานจนเกินไป ก็คือการใช้ม่านทึบแสงที่ช่วยกั้นแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาในบ้านตอนกลางวันที่คุณไม่อยู่บ้าน ก็จะช่วยลดความร้อนที่เข้าภายในบ้านได้ ยิ่งเป็นแบบที่สามารถกัน UV ได้ด้วยก็ยิ่งดี แต่หากเป็นตอนกลางวันในวันที่คุณอยู่บ้าน หากแสงแดดไม่สาดเข้าบ้านคุณมากจนเกินไป การเปิดประตูหน้าต่างเพื่อรับลมจากธรรมชาติแทนการเปิดแอร์ นั่นก็ถือเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดไฟได้เป็นอย่างดี

  3. ตรวจสอบว่าคอมเพรสเซอร์ของเครื่องปรับอากาศของคุณติดตั้งอยู่ในบริเวณที่โดนแดดมากหรือไม่ : เพราะการวางคอมเพรสเซอร์แอร์ในบริเวณที่โดดแดดส่องมากๆ จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักและกินไฟเยอะกว่าปกติ และทิศที่เหมาะสำหรับการติดตั้งคอมเพรสเซอร์มากที่สุดก็คือ ทิศเหนือและทิศตะวันออก และหากมีสิ่งของที่วางไว้บริเวณช่องที่คอมเพรสเซอร์แอร์เป่าลมออก ก็ควร ขนย้ายของ  เหล่านั้นออกไม่ให้กีดขวางการทำงานของคอมเพรสเซอร์ เพื่อให้เครื่องปรับอากาศสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

  4. ถอดปลั๊กไฟเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน : บ่อยครั้งที่เรามักจะเผลอลืมเสียบที่ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือค้างไว้เมื่อชาร์จเสร็จแล้ว หรือไม่ก็ปลั๊กพัดลม, กระติกน้ำร้อน, โทรทัศน์และไมโครเวฟ ฯลฯ ที่แม้คุณจะปิดเครื่องแล้วแต่อุปกรณ์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์นั้นยังใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อรอรับคำสั่งจากรีโมทหรือปุ่มกดอยู่ ฉะนั้นการถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งใช้งานเสร็จแล้ว เป็นการช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าของคุณอีกวิธีที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะไม่เสียค่าไฟไปฟรีๆ ทั้งที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ยังช่วยป้องกันอัคคีภัยได้ดีอีกด้วย

    นอกจากนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่บางครั้งเป็นของสะสมเก่าแก่ที่คุณอาจจะได้รับส่งต่อมาจากคุณพ่อคุณแม่ญาติพี่น้อง หรือเป็นของสะสมสไตล์วินเทจหรือของแอนทีคยุคเก่าที่คุณชื่นชอบ อย่างโคมไฟหรือที่เล่นแผ่นเสียงที่ใช้ไฟฟ้า ของเก่าเหล่านี้เมื่อเปิดใช้งานจะทำให้เปลืองไฟมากกว่าปกติ ฉะนั้น หากของเหล่านี้ยังมีคุณค่าทางจิตใจแต่ไม่รู้จะเก็บไว้ที่ไหน การนำไปเก็บไว้ใน ห้องเก็บของให้เช่า นอกจากจะช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในบ้าน ประหยัดไฟ ก็ยังช่วยลดความเสี่ยงที่ของเหล่านี้จะเสียหายได้อีกด้วย

  5. ปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อเพิ่มร่มเงาในบ้าน : เป็นวิธีที่ช่วยปกป้องแสงแดดที่ส่องเข้าในบ้านด้วยการเพิ่งพาธรรมชาติ ที่นอกจากจะกันแสงแดดจากร่มเงาของต้นไม้ได้แล้ว ยังช่วยให้บริเวณบ้านของคุณมีลมพัดเย็นสบายมากขึ้นอีกด้วย เพราะต้นไม้มีการดูดน้ำจากพื้นใต้ดินและเกิดการคายน้ำบริเวณปากใบ จึงทำให้เกิดความชุ่มชื้นขึ้นในอากาศ จึงช่วยทำให้บ้านของคุณเย็นมากขึ้นได้ในหน้าร้อนแบบนี้นั่นเอง

  6. เลือกใช้หลอดไฟแบบ LED : อย่างที่ทราบกันดีว่าการเลือกใช้หลอดไฟ LED เป็นหลอดไฟที่ประหยัดพลังงานได้ถึง 90% และคุ้มค่ามากเพราะมีอายุการใช้งานที่มากกว่าหลอดไฟแบบหลอดไส้ถึง 15 เท่า อีกทั้งยังให้แสงสว่างที่ชัดเจนและไม่ทำอันตรายต่อผิวหนังของคุณอีกด้วย

  7. เปลี่ยนมาใช้ระบบ Smart Home ในบ้านของคุณ : เช่น การติดแผงโซล่าเซลล์ทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้า หรือการนวัตกรรมที่สามารถควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ และยังสามารถเลือกโหมดประหยัดพลังงานได้ผ่านแอพพลิเคชั่น โดยอุปกรณ์ Smart Home เช่น ติดตั้งหลอดไฟอัจฉริยะ หรือเทอร์โมสตัตอัจฉริยะ เพื่อควบคุมอุณหภูมิและลดค่าไฟฟ้าได้มากถึง 30-40% ในประเทศพัฒนาแล้ว เช่น ประเทศอังกฤษ, สก็อตแลนด์ หรือไอร์แลนด์ เป็นต้น แต่ก็ยังมีอุปสรรคในเรื่องของราคาที่สูงอยู่ แต่ในอนาคตหากมีความต้องการที่สูงขึ้นทั่วโลก เราเชื่อว่าราคาของอุปกรณ์ Smart Home เหล่านี้จะถูกลงอย่างแน่นอน

 ขนย้ายของ

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟฟ้าภายในบ้านของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากสรุปสั้น ๆ ในหลักการทั้งหมดก็คือ การเพิ่มพื้นที่ภายในบ้านให้มีความโล่งมากขึ้น เพื่อให้ลมจากภายนอกสามารถพัดเข้ามาภายในบ้านเพื่อระบายอุณหภูมิความร้อนได้ โดยพิจารณาการ ขนย้ายของ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและไม่ขวางทางลม หรือการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งแน่นอนว่าหากบ้านของคุณมีพื้นที่มากพอที่จะสร้างห้องเก็บของก็อาจจะไม่มีปัญหา แต่หากพื้นที่ในบ้านของคุณมีไม่เพียงพอ การเลือกใช้บริการ ห้องเก็บของให้เช่า ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีไม่น้อย เพราะนอกจากคุณจะได้เก็บสิ่งของบางอย่างที่มีมูลค่าและคุณค่าทางจิตใจให้อยู่ในสภาพที่ดีได้แล้ว ยังช่วยเคลียร์สิ่งของภายในบ้านให้สะอาดโล่งโปร่งสบายมากขึ้นได้อีกด้วย และเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด หากคุณไม่ต้องการความวุ่นวายและเหนื่อยหนักที่จะต้องจัดการสิ่งของต่างๆ ที่จะนำไปเก็บไว้ยัง ห้องเก็บของให้เช่า ที่ Good Move Professional Movers เราก็มีบริการ ขนย้ายของ ด้วยทีมงานมืออาชีพที่รับประกันได้ว่าสิ่งของที่มีค่าของคุณจะไม่เสียหายระหว่างการขนย้ายอย่างแน่นอน

ติดต่อเราที่
โทร : 0-2114-7574
แฟกซ์ : 0-2100-4773
E-mail : info@goodmovethailand.com

Line ID : @goodmove ( มี @ ข้างหน้า )
Facebook Inbox : https://m.me/1653262334889316

 
Visitors: 1,914,738