การเปลี่ยนแปลงและโยกย้ายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการย้ายบ้านที่อยู่อาศัย ย้ายออฟฟิศสำนักงาน หรือบางท่านอาจได้ย้ายไปลงหลักปักฐานยังต่างแดนเลยก็มี แต่เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่สำคัญต่อผู้ที่ต้องการขนย้ายต้องนึกถึงเป็นเรื่องแรก ๆ เลย ก็คือ จะจัดการขนย้ายของอย่างไร? แน่นอนว่า หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่สะดวกที่จะไหว้วานครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนรอบข้างในการเข้ามาช่วยจัดเก็บของและขนย้าย การเลือกใช้บริการจากบริษัทรับขนย้ายของ ก็คงเป็นทางออกและเป็นคำตอบสุดท้ายที่ดีที่สุด

ในปัจจุบัน ตลาดของผู้ให้บริการด้านการรับขนย้ายบ้าน ขนย้ายคอนโด หรือออฟฟิศสำนักงาน ก็มีมากมายหลากหลายรูปแบบให้เลือก อย่างเช่น การเลือกใช้บริการรถขนของ ก็มีผู้ให้บริการตั้งแต่รูปแบบของผู้ที่นำรถส่วนบุคคลมาให้บริการรับจ้างทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถกระบะ แต่หากต้องการตัวเลือกประเภทของรถรับจ้างขนของที่หลากหลายขึ้น ก็จะมีบริการรถขนของจาก Application ที่ให้บริการด้านการขนส่งต่าง ๆ ตลอดจนบริษัทขนย้ายบ้าน ที่พร้อมให้บริการด้านการขนย้ายแบบครบวงจร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้กำลังต้องการโยกย้าย

แต่การใช้บริการรถขนของจากผู้ให้บริการแต่ละแบบจะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร Good Move มีคำตอบมาให้ในบทความนี้แล้ว

การขนย้ายบ้าน ย้ายคอนโด ควรใช้รถอะไรในการขนย้ายจึงจะเหมาะสม?

เบื้องต้นการเลือกใช้รถจากผู้ให้บริการรับขนย้ายบ้าน ขนย้ายคอนโด ฯลฯ นั้น สามารถเลือกได้โดยอาศัยการคำนวณของจำนวนสิ่งของ ทั้งสัดส่วนขนาดทางกายภาพ และน้ำหนักทั้งหมดโดยประมาณ ซึ่งเป็นเกณฑ์หลักในการเลือกขนาดของรถ โดยหากผู้ที่ต้องการขนย้ายจะตัดสินใจเลือกประเภทรถเองนั้นก็สามารถทำได้ หากทราบเงื่อนไขเกี่ยวกับข้อมูลของรถจากบริษัทรับขนย้ายของหรือผู้ให้บริการอื่น ๆ ที่สามารถขนย้ายของเหล่านั้นได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนย้าย ซึ่งส่วนใหญ่ประเภทของรถที่ผู้ให้บริการรับขนย้ายบ้าน ย้ายสิ่งของก็จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน ดังตัวอย่างประเภทและขนาดของรถขนของจาก Good Move ที่มีรายละเอียดดังนี้

1. รถปิ๊กอัพหรือรถกระบะหลังคาสูง ที่มีตู้เหล็กทึบสำหรับบรรจุของบริเวณกระบะหลัง มีขนาดพื้นที่บรรทุก กว้าง 152 ซ.ม. x ยาว 231.5 ซ.ม. x สูง 210 ซ.ม. ขนาดความจุ 6.5 คิว รองรับน้ำหนักการบรรทุกของได้ประมาณ 1,000 กิโลกรัม
   
   

   

2. รถบรรทุก 4 ล้อ เป็นรถบรรทุกขนาดเล็ก มีขนาดพื้นที่บรรทุก กว้าง 180 ซ.ม. x ยาว 320 ซ.ม. x สูง 240 ซ.ม. ขนาดความจุ 10.5 คิว โดยสามารถรองรับน้ำหนักสิ่งของที่บรรทุกได้ประมาณ 1,400 กิโลกรัม
   
   

   

3. รถบรรทุก 6 ล้อ เป็นรถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่ สามารถรองรับสิ่งของได้มาก โดยมีขนาดพื้นที่บรรทุก กว้าง 220 ซ.ม. x ยาว 700 ซ.ม. x สูง 230 ซ.ม. ขนาดความจุ 32 คิว และขนาดน้ำหนักที่รับได้ถึง 5,000 กิโลกรัม
   
   

   

4. รถเฮี๊ยบ หรือบรรทุกติดเครน ซึ่งจะมีหัวเกี่ยวสำหรับช่วยยกสิ่งของขนาดใหญ่ขึ้นและลงจากรถได้ เพราะไม่มีตู้เหล็กทึบปิดกั้น มีขนาดพื้นที่บรรทุก กว้าง 220 ซ.ม. x ยาว 700 ซ.ม. x สูง 230 ซ.ม. ขนาดความจุ 32 คิว และรองรับน้ำหนักได้ 5,000 กิโลกรัม เท่ากับรถบรรทุก 6 ล้อ

ซึ่งโดยส่วนใหญ่สำหรับผู้ที่ต้องการย้ายของจากหอพัก อพาร์ตเมนต์ หรือขนย้ายคอนโด ก็สามารถใช้รถกระบะสี่ล้อที่มีตู้ทึบเป็นการเริ่มต้นได้ เพราะรองรับการขนย้ายของจำนวนมากและมีหลังคาที่ช่วยป้องกันแดดและฝนให้กับของที่ย้ายได้ แต่ถ้าเป็นการย้ายบ้านหรือของในสำนักงาน ก็อาจต้องพิจารณาเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่

แต่หากสุดท้ายแล้ว จำนวนสิ่งของที่คุณต้องการขนย้ายมีมากจนไม่แน่ใจว่าจะใช้รถขนาดใดจึงจะเหมาะสม หรือยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย เช่น ระหว่างการใช้รถขนาดเล็กขนของหลายเที่ยว หรือใช้รถขนาดใหญ่ขนของเที่ยวเดียว แบบไหนถึงจะคุ้มค่ากว่ากัน เป็นต้น ก็อาจต้องได้รับการบริการจากบริษัทขนย้ายบ้าน เป็นทางเลือกที่ดี คุ้มค่า รวดเร็ว และปลอดภัยกว่า

จะเลือกใช้อะไรดี ระหว่างบริการรถขนของผ่าน Application หรือบริการขนย้ายแบบครบวงจรจากบริษัทรับขนย้าย?

หากจะแบ่งประเภทของผู้ให้บริการรับจ้างขนย้ายของที่เป็นบริษัทเอกชน ที่ให้บริการต่าง ๆ เกี่ยวกับการรับขนย้ายบ้าน ขนย้ายคอนโด ขนย้ายสำนักงาน ไปจนถึงการย้ายของจากธุรกิจห้างร้านต่าง ๆ ก็ตาม สามารถแยกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ก็คือ บริการรถขนของผ่าน Application และบริการขนย้ายแบบครบวงจรจากบริษัทรับขนย้ายของ ซึ่งมีความแตกต่างกันในด้านการให้บริการ ดังนี้

1. บริการรถขนของผ่าน Application
   เป็นการให้บริการรถสำหรับใช้ขนของจากบริษัทที่ให้บริการด้านการขนส่งเป็นหลักอยู่แล้วโดยเป็นบริษัทเอกชนที่ให้การบริการจองผ่าน Application นับเป็นตัวเลือกที่ง่ายและเน้นความรวดเร็วคล่องตัว และมีราคาค่าบริการเริ่มต้นที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้ เพราะส่วนใหญ่จะเน้นด้านการให้บริการรถขนของเป็นหลัก ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายประเภท ตั้งแต่รถกระบะ 4 ล้อพร้อมตู้เหล็กปิดทึบ ไปจนถึงรถบรรทุก 6 ล้อหรือรถใหญ่อื่น ๆ
   
   โดยจะไม่ได้รวมบริการด้านการให้กล่องสำหรับเก็บของ บริการแพ็กเก็บของหรือช่วยบรรจุห่อของ ดังนั้นผู้ใช้จึงต้องรับผิดชอบดำเนินการจัดเก็บด้วยตนเองให้เรียบร้อย รวมถึงหากต้องการบริการเสริมด้านขนย้าย อย่างเช่น ให้คนขับรถช่วยยกของ หรือต้องการคนมาช่วยในการยกขนย้ายของเพิ่มเติม ก็อาจต้องกดเลือกเพิ่มเอง และมีค่าใช้จ่ายแยกเพิ่มเติมต่างหาก
   
   ในส่วนของการคิดราคาค่าบริการ ก็จะมีทั้งการคิดตามระยะทาง หรือเหมาจ่ายเป็นรายวันให้เลือกใช้ได้ตามต้องการ แต่หากจะย้ายข้ามจังหวัดหรือระยะทางไกล อาจต้องตรวจสอบกับผู้ให้บริการ Application แต่ละรายว่าสถานที่ต้นทางและปลายทางนั้นครอบคลุมอยู่ในเขตพื้นที่บริการหรือไม่ รวมถึงการรับประกันความเสียหายในการขนย้ายว่ามีเงื่อนไขในการให้บริการหรือไม่อย่างไร โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้ผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการแต่ละรายได้โดยตรง
   
   
2. บริการขนย้ายแบบครบวงจร จากบริษัทรับขนย้ายของ
   อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องย้ายที่อยู่และสำนักงาน แต่อาจมีข้อจำกัด ข้อสงสัย หรือมีปัญหาในด้านต่าง ๆ นอกเหนือจากเรื่องรถที่ใช้ขนของและแรงงานที่จะมาช่วยยกของ ไม่ว่าจะเป็น ต้องการความสะดวกสบายในการย้าย แม้จะมีสิ่งของจำนวนมากที่ต้องขนย้ายในระยะเวลาที่จำกัดและเร่งรัด หรือไม่มีความชำนาญในการแพ็กข้าวของเครื่องใช้ การถอด-ประกอบเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ไปจนถึงจุดที่จะรับ-ส่งของที่ขนย้ายอยู่ห่างไกล บางครั้งอาจต้องย้ายไปถึงต่างประเทศเลยทีเดียว เป็นต้น
   
   

   

   
   แน่นอนว่าบริษัทรับขนย้ายแบบครบวงจรนั้น สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน โดยให้บริการตั้งแต่การจัดเก็บและแพ็กของที่ต้นทางด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะสม การดำเนินการขนย้ายของ รวมถึงทำการประกอบและจัดเก็บของเข้าที่ ณ ปลายทางด้วย
   
   ซึ่งในปัจจุบันก็มีบริษัทขนย้ายบ้านแบบครบวงจรให้บริการในลักษณะนี้ เช่น Good Move, JVK, Big Move Thai, Moomove ฯลฯ โดยนอกเหนือจากบริการด้านการขนย้ายแล้ว ผู้ใช้บริการยังมั่นใจได้ด้วยองค์ประกอบเสริมต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่มีรวมอยู่ในแพ็กเกจบริการ ไม่ว่าจะเป็น

1. มีรถหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ เหมาะสมกับการขนย้ายของที่ทั้งสะดวกและปลอดภัยรวมอยู่ในบริการอย่างคุ้มราคา
   
   
2. มีเรตราคาค่าบริการที่ชัดเจน ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแพ็กเกจรวมทั้งค่ารถ ค่าบริการแพ็กของและขนย้าย พร้อมด้วยบริการเสริมอื่น ๆ โดยบริษัทรับขนย้ายของมืออาชีพจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบราคาค่าใช้จ่ายทั้งหมดล่วงหน้าได้ มีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน และไม่ควรมีการเรียกเก็บเพิ่มภายหลังที่ขนย้ายสิ่งของเสร็จ ซึ่งเป็นต้นเหตุของงบประมาณขนย้ายที่บานปลาย ไม่คุ้มค่า
   
   
3. มีระบบการทำนัดหมายการขนย้ายที่ชัดเจน สามารถให้บริการในวันและเวลาที่กำหนดอย่างแม่นยำ ไม่มาสายและไม่ทิ้งงานกลางคัน และสามารถติดตามการดำเนินการขนย้ายว่าถึงขั้นตอนไหนแล้วได้ตลอดเวลา
   
   
4. ให้บริการด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ที่ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์ในการย้ายของโดยตรง ตั้งแต่ขั้นตอนการให้คำปรึกษาเพื่อเตรียมตัวก่อนขนย้าย วิธีการดำเนินการ และการปฏิบัติเมื่อการขนย้ายถึงที่หมาย
   
   
5. เป็นบริษัทรับขนย้ายที่มีการรับประกันการขนย้าย แม้จะให้บริการด้วยเจ้าหน้าที่มืออาชีพ แต่ก็เพิ่มความอุ่นใจให้ผู้ใช้บริการ หากมีกรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินจนก่อให้เกิดความเสียหายกับสิ่งของที่ขนย้าย ก็พร้อมจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมืออาชีพ

และทั้งหมดนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับบริการขนของ ระหว่างบริการรถขนของผ่าน Application และบริการจากบริษัทรับขนย้ายของโดยเฉพาะ ซึ่งต่างก็มีข้อดีในบริการตามแบบที่ลูกค้าต้องการนั่นเอง

และหากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการขนย้ายแบบครบวงจร ให้ Good Move เป็นผู้ช่วยของคุณ เรายินดีดูแลทุกเรื่องการขนย้าย พร้อมให้คุณยกทุกเรื่องการจัดเก็บของที่แสนจะวุ่นวายให้เป็นหน้าที่ของเรา ด้วยทีมงานมืออาชีพมากประสบการณ์ พร้อมจะให้บริการรับขนย้ายบ้าน ขนย้ายคอนโด หอพัก สำนักงาน ร้านค้า ไปจนถึงเครื่องจักรโรงงาน ฯลฯ ก็สามารถทำได้ในเวลาและงบประมาณที่วางไว้ ที่สำคัญเราพร้อมให้บริการขนย้ายตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.goodmove-th.com
โทร : 0-2114-7574
แฟกซ์ : 0-2100-4773
E-mail : info@goodmovethailand.com
Lind ID : @goodmove ( มี @ ข้างหน้า )
Facebook Inbox : https://m.me/1653262334889316